วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แซมมี่ เขต เซิน ปั๋ม Jetset'er - Horns section... ดนตรี มิตรภาพ Work!

แหม่... มาพูดถึงทีม Horn section ทีมนี้ ผมน้ำตาจะไหล เพราะสนิทเป็นการส่วนตัวมากๆ

ใครจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา รวมถึงวิธีคิด การทำงาน กระทั่งการดำเนินชีวิตที่หล่อหลอมให้ทีมนี้เป็นทีมที่มีแต่คนรักและยกย่อง ผมขอเล่าให้ฟังจากที่เคยสัมผัสมาน่ะครับ

จริงๆบอกตามตรงว่าอยากให้ชมวีดิโอก่อน เพราะจะเข้าใจความลึกซึ้งของพวกเขา แต่อย่างว่าล่ะครับ อ่านก่อนรู้จักเค้าก่อนแล้ววีดิโอที่ท่านชม จะประทับใจแบบที่ผมเป็นระหว่างตัดต่อ นี่ล่ะ Horn section ในฝันของหลายๆคน ทั้งการแสดง ท่าเต้น การเอ็นเตอร์เทนผู้ชม รูปลักษณ์ การแต่งตัว รวมถึงนิสัยของพวกเค้าทั้งหมด

เมื่อดีก็ย่อมมีมุมของคนคอมเม้นท์ครับ มันคู่กันเสมอ ทีมนี้คือทีมที่ถูกแซวเรื่องการเรียบเรียง Line Horn section มากที่สุด เพราะมีการเขียนที่ไม่ซ้ำทวน สร้างความหลากหลายตลอด ตัวผมเองก็เคยแอบบ่น โห.. เล่นลำบากมากเลย ตามไม่ทันน่ะ แบบนี้ต้องขอซ้อมก่อน ไม่น่าไหว เกาะตามใครไม่ได้เลย หลุดเป็นยาว หาไม่เจอแน่นอน (ผมเป็นคนขี้บ่นน่ะครับ)

"แต่ทุกอย่างนั่นมันไม่ใช่เสน่ห์ของทีมเค้าหรอคับ"...
"แล้วถ้ามันยาก มันวุ่นวาย ทำไมทีมนี้ถึงประสบความสำเร็จ มีงานจ้างตลอดปี แทบไม่ได้พัก"...

จากนี้... ขออนุญาติกล่าวถึงทีละคนนะครับ 



แซมมีี่ trumpet เป็นคนเรียบเรียงลาย Horn section งานของ Jetset'er ทั้งหมด ทำมาหลายชุด รวมถึงเพลงประกอบละครด้วย ผมว่าหนุ่มหน้าขาวคนนี้ ไม่ธรรมดาหรอกครับ กว่าจะมายืนถึงตรงนี้ได้ รับรองเจ็บและฝึกฝนมาเยอะเลยล่ะ ยังไม่จบครับ นอกจากงานในแบบนี้ เค้ายังเป็นคนที่เขียนเพลงให้กับวงโยธวาฑิตทั้งวง และเคยเขียนเพลงประกวดสำหรับวง Orchestra ได้รางวัลมาแล้ว ดังนั้นเค้าจะเขียนจะทำงานอะไร ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เค้าอัดเต็มแมกซ์ ไม่สนเรื่องสตางค์ ผลงานเค้าจึงออกมาเหมือนผลงานสุดท้ายที่ดีที่สุดของชีวิตเสมอๆ 

เขต หรือ รัฐเขต นัก Saxophone หนุ่มน้อยหน้าใสคนนี้มาจากเชียงใหม่ และฝึกฝนฝีมือจนขึ้นระดับ Jazz saxophone แนวหน้าของประเทศที่มหาวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหิดล สำหรับผม เขตเป็นคนที่มีการวางระบบชีวิตได้อย่างลงตัว มองการไกล และมีฝัน ที่สำคัญมารยาทและความจริงใจของเค้า ทำให้ใครๆอายมาแล้วนับไม่ถ้วน ความคล่องตัวและความเป็นตัวของตัวเองของเขต หลายๆคนสามารถนำไปเป็นแบบอย่างได้เลย (สัมผัสได้จากวีดิโอครับ) ผมเองก็ยังนำเอาความคิดของเค้ามาปรับใช้ในการฝึกฝน แม้ผมจะอายุมากกว่าเขตหลายปี แต่วิธีคิดของเค้าผมเอามาใช้อย่างไม่เขอะเขิล จากนี้ผมก็จะคอยตามดูงานของเค้าในอนาคต 

ปั๋ม Trombone สมาชิกใหม่ของทีมนี้ เข้ามาแทนเซิน ซึ่งเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ปั๋มเป็นน้องชายของเพื่อนรักผมสมัยประถม เห็นกันตั้งแต่เล็ก ขนาดล้อชื่อพ่อได้ครับ 55 แถมปั๋มยังเป็นรุ่นน้องวงโยฯที่โรงเรียนเดียวกับผม (สารสิทธิ์) เดิมที ปั๋มเป็นคนทรอมโบนที่มุ่งเรื่องการเล่นดนตรีคลาสสิคมาก ไม่เคยจะคิดสักแว่บนึงว่าจะมาเล่นดนตรีแบบนี้ ทรอมโบนที่ใช้ก็ยังเป็น Bass trombone แบบที่ใช้ได้แค่วงคลาสสิค ภายหลังมาเล่นแบบนี้ปั๋มจึงซื้อทรอมโบนเล็ก (Tenor Trombone) มาเพิ่ม เพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งและมี Sound ในแบบที่ทีมต้องการ จากใจที่เคยมีแต่โลกของดนตรีคลาสสิคของปั๋มได้ถูกเปิดออก และผสมผสานกับโลกใบใหม่อย่างลงตัวด้วยดนตรีที่หลากหลาย ปัจจุบันส่วนตัวผมดีใจมากที่ปั๋มมาเล่นดนตรีในสายนี้และเป็นแบบอย่างให้กับน้องๆในเรื่องของการเปิดโลกเปิดใจรับสิ่งใหม่ โดยที่สิ่งเก่ายังคงคุณภาพไม่เสียหาย

เขียนมาก็ยาวครับ คราวนี้มาถึง Hi-light ของผม "เซิน Trombone ณ บ้านโป่ง" 

เซินเคยโทรมาถามผม "พี่คับ ผมอยากเล่นแบบพี่ ต้องทำไง??" ผมแนะนำเซินว่า "ลองไปเล่น CU Band สิ ในนั้นมีดนตรีหลายแนว เพื่อนและ Contact เยอะ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในตอนนี้นะ" สิ่งที่ผมแนะนำเซินไปไม่ได้ช่วยให้เซินมีทีมเล่นแบบผม แต่เค้าได้เพื่อนที่ดีมาคนหนึ่งแทน  สุดท้ายเค้าก็มาเริ่มเล่นกับทีม Jetset'er นี่ล่ะ โดยการชักชวนของแซมมี่ จากนั้นทุกสิ่งที่เค้าอยากได้ เค้าทำด้วยตัวเองล้วนๆ ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น รักษามาตราฐานของตัวเอง แถมนิสัยขี้เล่นของเซินทำให้มีแต่คนรัก คนจึงส่งเสริมสิ่งที่เค้าทำ ปัจจุบัน เซิน ศึกษาต่อด้านทรอมโบนที่ประเทศเบลเยี่ยม คอยติดตามผลงานและการนำสิ่งใหม่ๆของเค้าสู่วงการดนตรีทรอมโบนบ้านเราครับ

เซินกับแซมมี่ลุยกับวง Jetset'er มาตั้งแต่งานเริ่มก่อตั้งวงนี้ เล่นฟรี อัดฟรี ทุกอย่างฟรี มีการดูแลที่ดีจากพี่ๆ jetset'er ที่สู้ทำวงและอยู่กันด้วยใจ ภายหลังเริ่มมีความนิยม มีงานจ้าง พี่ๆวงนี้ก็ไม่เคยทิ้งทีมนี้ ยังคงอยู่ด้วยกันและดูแลกันแบบพี่น้อง หารายได้เข้าสู่ทีมนี้ไม่หยุดหย่อน นี่คือความน่ารักและตัวอย่างของวง Jetset'er วงที่เป็น idol ของหลายๆคนครับ







สุดท้ายนี้ ผมขอบรรยายความรู้สึกส่วนตัวของผมต่อพวกเค้า ซึ่งพวกเค้าเองก็อาจจะไม่รู้ เอาแบบไม่อายเลยนะครับ ผมชอบพูดเรื่องจริง

ปี 2553 ผมตกงาน ลำบากกระทั่งไม่มีรายได้มากินข้าวและชำระหนี้สิน เพียงแค่น้องกลุ่มนี้รู้ข่าวว่าผมลำบาก  เมื่อไหร่ที่มีโอกาสให้ผมไปเล่นแทนได้ เค้าจะป้อนงานให้ผมมีรายได้ วางแผนให้ผมประคองตัวเองไปได้ แม้ผมจะเล่นเพลงของพวกเค้าไม่ได้(เลย) แต่เค้าไม่เคยสน กลับต้องมาทำให้ผมสนุกไปกับพวกเค้า เพื่อลืมความเครียดในการเล่น นี่คือความรู้สึกที่ผมอยากบอกพวกเค้าทั้งหมด ขอบคุณ ขอบคุณมากที่ให้เกียรติและช่วยเหลือกันเสมอ 



aunztrumpet

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น